หนังสือหายาก คือ หนังสือที่มีคุณค่าสูง ซึ่งไม่สามารถแสวงหาได้โดยง่ายจากห้องสมุดหรือร้านหนังสือทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเก่า และเป็นหนังสือที่มีราคาสูง
หนังสือหายากจะประกอบด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลาย ๆ อย่างรวมกันดังต่อไปนี้ (รักสยามหนังสือเก่า, 2553)
1. เป็นหนังสือเก่า หายากไม่ปรากฏว่ามีในตลาดหนังสือหรือหากมีก็มีจำนวนน้อยฉบับ
2. ฉบับพิมพ์ครั้งแรก
3. ฉบับพิมพ์จำนวนจำกัด และไม่มีการตีพิมพ์อีก
4. ฉบับจัดพิมพ์พิเศษ
5. ฉบับจัดรูปเล่มงดงามพิเศษ
6. ฉบับรวมเล่ม
7. หนังสือที่น่าสนใจจากสมาคม หรือ องค์กรต่าง ๆ
8. หนังสือที่มีเนื้อหาที่มีคุณค่า ยากที่จะหาอ่านได้ในหนังสือเล่มอื่น
9. ถ้าเป็นหนังสือต่างประเทศอาจเป็นหนังสือที่พิมพ์ในลักษณะเก่าพิเศษใน สมัยศตวรรษที16-17 ถ้า
พิมพ์ในอเมริกาก็ต้องพิมพ์ก่อน ค.ศ. 1820
พิมพ์ในอเมริกาก็ต้องพิมพ์ก่อน ค.ศ. 1820
หนังสือหายากในประเทศไทย
โดยแต่เดิมก่อนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ยังไม่มีการพิมพ์หนังสือเกิดขึ้น ยังใช้การเขียนหนังสือ ซึ่งลักษณะต่างกัน 3 ประเภท คือ ถ้าเป็นหนังสือสำหรับอ่านกันเป็นสามัญก็จะเขียนกันในสมุดไทยสีขาวด้วยเส้นหมึกบ้าง เขียนในสมุดไทยสีดำด้วยเส้นดินสอขาวหรือเส้นฝุ่น และเส้นหรดาล หรือถ้าพิเศษขึ้นก็จะเขียนด้วยเส้นทอง ซึ่งจะเรียกว่า หนังสือสมุดไทย ถ้าเป็นหนังสือตำรับตำรา อาทิเช่น ตำราคาถาอาคม ตำราอักขระเลขยันต์ ก็มักจะมีจารลงในใบลานร้อยเชือกเก็บไว้ ซึ่งเรียกว่า หนังสือคัมภีร์ใบลาน หนังสือประเภทนี้มีจำนวนน้อยถ้าอยู่กับผู้ที่รู้ก็มักจะหวงแหน มักจะเป็นเรื่องแปลก ๆ เช่น ลายแทงปริศนาคาถาอาคม หรือพิธีที่ไม่ค่อยมีผู้รู้จัก ถ้าเป็นจดหมายมีไปมาถึงกัน เช่น ใบบอกในราชการก็จะเขียนลงในกระดาษข่อยด้วยเส้นดินสอดำ ม้วนใส่กระบอกไม้ไผ่ส่งไป เมื่อเสร็จกิจแล้วก็เอาเชือกผูกเก็บไว้เป็นมัด ๆ มักจะมีอยู่ตามสำนักราชการ เรียกว่าหนังสือสมุดข่อย จัดเป็นหนังสือประเภทหนึ่งเช่นกัน ซึ่งหนังสือฉบับเขียนทั้ง 3 ประเภทนี้ ประเภทที่เขียนขึ้นในสมุดไทยนั้นจะมีมากกว่าหนังสือประเภทอื่น (รักสยามหนังสือเก่า, 2553)
กิจการพิมพ์หนังสือได้เริ่มต้นขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่หนังสือตีพิมพ์ในสมัยนั้นยังมีน้อยมาก เพิ่งจะเริ่มมีแพร่หลายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งหอพระสมุดสำหรับพระนคร และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพซึ่งเป็นเอตทัคคะบุคคลในสมัยนั้นเป็นปัจจัยช่วยเหลืออย่างแข็งขันประกอบกับเป็นสมัยที่ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษาแทบทุกด้าน วิวัฒนาการพิมพ์เจริญขึ้นโดยคณะกรรมการได้ปรึกษากันเห็นว่าหอพระสมุดควรจะคิดหาหนังสือไทย ที่เป็นฉบับเขียนของเก่าเสียก่อน เพราะหนังสือฉบับพิมพ์จะซื้อเมื่อใดก็ซื้อได้ ซึ่งสมัยนั้นได้มีการพิมพ์หนังสือโดยอาศัยเทคโนโลยีชาวต่างชาติแล้วแต่หนังสือไทยฉบับเขียนกระจัดกระจายอยู่มากยิ่งถ้าช้าไปก็จะเป็นอันสูญหายเป็นอันมากขึ้นทุกที กรรมการหอพระสมุดฯ จึงมอบหมายให้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นผู้สืบเสาะหา สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ จึงทรงคิดหนังสือฉบับเขียนด้วยการไปขอตามที่มีเป็นแหล่งใหญ่ ๆ เช่นวังหน้า เป็นต้น หรือที่เจ้าหน้าที่ของเอามาให้ก็มี แต่การจะหาหนังสือที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นเมืองนั้นเป็นการยากมากไม่รู้จะมีอยู่ที่ไหนบ้าง พระองค์ทรงคิดอุบายได้อย่างหนึ่งโดยทรงขอแรงพนักงานในหอพระสมุดฯ ให้เที่ยวออกข่าวลือว่าถ้าใครเอาสมุดฉบับเขียนมาขายหอพระสมุดฯ จะซื้อซึ่งใข้เวลาไม่นานนักก็เริ่มมีผู้นำหนังสือมาขายเป็นอันมาก หนังสือเก่าฉบับเขียนนี้พระองค์ทรงเป็นผู้เลือกซื้อแต่เพียงผู้เดียว ทรงให้ราคาตามที่พระองค์เห็นเป็นค่าหนังสือบางทีเจ้าของตีราคาบาทหนึ่งแต่พระองค์ทรงให้ตั้ง 4 บาท หรือ 5 บาทก็มี อาศัยวิธีนี้จึงมีผู้นำหนังสือมาขายหรือไปเที่ยวเสาะแสวงหาหนังสือมาเสนอขายพระองค์เป็นจำนวนมาก จึงทำให้วิชาความรู้ต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษได้บันทึกเอาไว้ไม่สญหายไปมากนักและมีการพิมพ์สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ หนังสือที่มีการพิมพ์แจกขึ้นเป็นครั้งแรก กล่าวกันว่า หนังสือสวดมนต์ฉบับหลวงที่แจกในงานพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ เมื่อ พ.ศ. 2423 ถือว่าเป็นหนังสือเล่มแรกที่แจก ได้แก่หนังสือสวดมนต์ฉบับหลวง จัดเป็นหนังสือหายากที่พิมพ์แจกจ่ายเล่มแรก เพราะเป็นหนังสือเก่ามากพิมพ์จำนวนจำกัดและเป็นการพิมพ์ครั้งแรก (รักสยามหนังสือเก่า, 2553)
ดังนั้น หนังสือเก่าจึงเป็นบทบันทึกแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ โดยเฉพาะหนังสือที่มีอายุมาก ๆ ก็ควรจะต้องดูแลเก็บรักษากันอย่างดี เนื่องจากชำรุดง่ายด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น กระดาษที่พิมพ์เปื่อยยุ่ยกรอบไปตามกาลเวลา หรือมีตัวกินหนังสือคอยกัดกร่อนให้หนังสือผุขาด หรือถูกน้ำฝนเปียกชื้น ซึ่งหนังสือเก่าจำพวกนี้ต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี ราคาหนังสือเก่ามีราคาเริ่มตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว (รักสยามหนังสือเก่า, 2553)
หลักเกณฑ์ที่จะใช้พิจารณาหนังสือหายากโดยทั่วไป
หนังสือหายากอาจจะมีลักษณะตรงตามเกณฑ์นี้ทั้งหมดหรืออาจจะข้อใดข้อหนึ่งดังนี้
1. หนังสือเก่าแก่หาได้ยาก ส่วนมากเป็นหนังสือที่มีค่าในด้านการพิมพ์เป็นเอกสารปฐมภูมิ (Primary source) ในด้านประวัติและพัฒนาการพิมพ์ของโลก เช่น หนังสือที่พิมพ์ด้วยตัวแกะไม้
2. หนังสือซึ่งมีความสำคัญในด้านเป็นเอกสารปฐมภูมิและด้านประวัติการพิมพ์ ของแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดเอาระยะ 50 - 80 ปีแรกของพัฒนาการด้านการพิมพ์ในแต่ละประเทศหรือในแต่ละภูมิภาคนั้น
3. หนังสือที่มีการพิมพ์จำนวนจำกัด ในการพิมพ์หนังสือครั้งหนึ่งๆ จะมีบางฉบับที่ผู้แต่งหรือสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดี ใช้ตัวพิมพ์ชนิดพิเศษ มีภาพประกอบสวยงาม เย็บปกเข้าเล่มอย่างประณีต เพื่อเป็นอภินันทนาการแก่มิตรสหาย โดยให้แตกต่างกับอีกส่วนที่จัดพิมพ์เพื่อจำหน่าย
4. หนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรก หมายถึง การจัดพิมพ์ต้นฉบับออกมาในรูปเล่มของหนังสือเป็นครั้งแรก
5.ความเด่นของหนังสือ หนังสือหายากประเภทนี้ มิได้เน้นถึงความดีมีคุณค่าของเนื้อหาสาระ หรือการใช้ภาษาอย่างถูกต้องไพเราะ แต่หมายถึงความเด่นในลักษณะที่แตกต่างไปจากผลงานส่วนใหญ่ ของนักเขียนสามัญ เช่น เรื่องที่กุขึ้นหรือเป็นการปลอมแปลงวรรณกรรม
6. หนังสือเก่าที่มีสภาพรูปเล่มสมบูรณ์ หรือมีสภาพรูปเล่มที่สวยงาม เช่น หนังสือเก่าที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันที่มีสภาพเหมือนเมื่อแรกออกจำหน่าย มีกล่องบรรจุ มีใบหุ้มปกทุกหน้าในเล่ม ไม่มีรอยพับหรือฉีกขาด หรือหนังสือภาพประกอบที่มีคุณค่า เช่นผู้เขียนวาดหรือถ่ายภาพด้วยตนเอง หนังสือที่ใช้วัสดุมีค่าจัดทำอย่างประณีตสวยงาม เช่น ใช้หนัง แพร ไหม แผ่นเงิน แผ่นทองแทนกระดาษ หรือการเย็บปกเข้าเล่มทำเป็นพิเศษ เช่น ปกนอก ทำด้วยงาช้างประดับเพชรพลอย
7. หนังสือที่มีประวัติการครอบครอง ว่าเคยเป็นของผู้ใดมาก่อน เช่น หนังสือของหอสมุดแห่งชาติไทยในปัจจุบัน ก็สืบเนื่องมาจากการรวบรวมหนังสือในหอพระสมุด ซึ่งสมเด็จพระมหากษัตราธิราชในพระบรมราชจักรีวงศ์ทรงสร้างขึ้นไว้เป็นหนังสือที่มีประวัติการครอบครองว่าเคยเป็นของบุคคลสำคัญ หรือเคยเป็นสมบัติของห้องสมุดที่มีชื่อเสียง จึงเป็นหนังสือหายากที่มีราคา
เกณฑ์การประเมินประเภทและลักษณะของหนังสือหายากภาษาไทย
1. หนังสือที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์การพิมพ์ คือ
1.1 หนังสือเก่าที่มีการจัดพิมพ์ในช่วงรยะ 50-80 ปีของพัฒนาการด้านการพิมพ์ในประเทศไทย(พ.ศ.2379-2430และ พ.ศ.2431-2460)
1.2 หนังสือปกอ่อนประเภทบันเทิงคดี จากโรงพิมพ์ราษฎร์เจริญ
1.3หนังสือที่มีการพิมพ์จำนวนจำกัด คือ หนังสือที่จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสต่างๆ เช่นงานวันครบรอบอายุ งานวันเกิด งานพระราชพิธี และงานศพ
1.4 หนังสือที่พิมพ์ในช่วง พ.ศ.2485-2487 ซึ่งเป็นช่วงสมัยที่มีการปรับปรุงการเขียนภาษาไทยให้คงเหลือพยัญชนะเพียง 31 ตัว คือ ก ข ค งฉ ช ซ ญ ดต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ส ห อ ฮ และตัด ไ ฤ ฤา ภ ภา ออก ตัด ทร ให้ใช้ ว แทนตัว ญ ตัดเชิงล่างออก เป็นต้น
2. หนังสือที่มีเนื้อหากล่าวขวัญถึง ประกอบด้วย
2.1 หนังสือที่รัฐบาลประกาศให้เป็นหนังสือต้องห้าม ซึ่งกระทรวงมหาดไทยประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครอง เช่น หนังสือ The King Never Smiles กษัตริย์ไม่เคยยิ้ม , กงจักรปีศาจ (The Devil's Discus), A Coup for the Rich ; รัฐประหารเพื่อคนรวย เป็นต้น
2.2 หนังสือที่เป็นผลงานเพียงเรื่องเดียวหรือเป็นผลงานเพียงส่วนน้อยที่ต่างไปจากผลงานส่วนใหญ่ของนักเขียน
2.3 หนังสือที่กุขึ้นหรือ เป็นการปลอมแปลงวรรณกรรม หมายถึง หนังสือ หรือเอกสารที่แต่งขึ้นโดยเจตนาจะหลอกลวงว่า เป็นผลงานของนักเรียนที่มีชื่อเสียงหรือ เอกสารที่มีคุณค่าทางประวิติศาสตร์
3. หนังสือเก่าที่มีสภาพรูปเล่มสมบูรณ์ หรือมีสภาพรูปเล่มสวยงาม ประกอบด้วย
3.1 หนังสือเก่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีสภาพรูปเล่มสมบูรณ์ เช่น มีกล่องบรรจุ มีใบหุ้มปกนอกไม่ชำรุด ทุกหน้าในเล่มไม่มีรอยพับหรือฉีกขาด และข้อความไม่เปรอะเปรื้อน
3.2 หนังสิอซึ่งใช้วัสดุมีค่า จัดทำอย่างจาณีตบรรจง การเข้าเล่มเย็บปกแข็งแรงทนทาน การจัดรูปเล่มสวยงามและตกแต่งหน้าปกด้วยวัสดุที่มีคุณค่า หนังสือพระราชนิพนธ์ประเภทวรรณคดีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยุ่หัว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือปกแข็ง การจัดรูปเล่มประณีต บรรจงและสวยงาม ใช้ปกสีต่างๆ หน้าปกมีลวดลายและมีอักษรบนหน้าปกเป็นตัวนูน และเดินทองทุกตัว
3.3 หนังสือที่มีภาพประกอบที่มีคุณค่า เช่น ภาพประกอบที่ผู้เขียนวาดหรือถ่ายภาพด้วยตนเอง ภาพประกอบที่อาจดึงออกจากเล่มโดยง่าย ภาพประกอบที่เป็นภาพฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือภาพประกอบที่วาดโดยจิตรกรที่มีชื่อเสียง
3.4 หนังสือที่มีขนาดและรูปเล่มต่างไปจากรูปแบบธรรมดาทั่วไป
4. หนังสือที่มีประวัติการครอบครอง คือ
4.1 หนังสือที่มีภาพของผู้แต่ง หรือเจ้าของหนังสืออยุ่ในเล่ม
4.2 หนังสือที่มีบรรณสิทธิ์ (Book plate) คือ ป้าย หรือ ตราประจำตัวของเจ้าของหนังสือ
4.3 หนังสือฉบับที่มีรายมือชื่อ หรือข้อความที่เจ้าของเดิมเขียนไว้ในตัวเล่ม
5.หนังสือหายากประเภทอื่นๆ
5.1 แบบเรียน
5.2 การ์ตูนสมัยโบราณ
5.3 หนังสือตราหอ
5.4 หนังสือที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่เขียนโดยชาวต่างประเทศ
5.5 หนังสือตัวเขียน เช่น สมุดข่อย คัมภีร์ใบลาน ปั้บสา
ตัวอย่างหนังสือหายากของไทย
1. ประชุมพงศาวดาร ภาค 1-82 หนังสือที่รวบรวมพงศาวดารต่างๆ และตำนานเก่าแก่ที่สำคัญในสยามประเทศแต่โบราณมา มีทั้งหมด 82 ภาค ตั้งแต่ภาคแรกที่ตีพิมพ์ปี พ.ศ.2456 จนถึงภาค 82 ที่พิมพ์ปี พ.ศ.2537 ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ชุดละ 2 แสนบาท
2. ราชกิจจานุเบกษา ร.5 เป็นเอกสารที่หายากมาก มีการนำมารวบรวมได้ทั้งหมดครบชุด 35 เล่ม ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณชุดละ 7 แสนบาท
![]() |
3. จดหมายเหตุสยามไสมย เป็นหนังสือพิมพ์รายเดือน/รายสัปดาห์ที่ออกระหว่างปี พ.ศ.2425-2429 ต้นสมัยรัชกาลที่ 5 บรรณาธิการและผู้จัดพิมพ์ คือ หมอสมิท (Rev. Samuel J. Smith) มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้บุกเบิกการพิมพ์ เท่าที่ปรากฏแก่สาธารณชนในปัจจุบัน หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีเหลืออยู่เพียงสองชุดในเมืองไทย ชุดหนึ่งเป็นของหอสมุดแห่งชาติ กับอีกชุดหนึ่งตกเป็นสมบัติของนักสะสมเอกชน ฉบับพิมพ์ครั้งแรกนั้นราคาพุ่งไปถึงหลักแสน
4. ธรรมศาสตร์วินิจฉัย มีทั้งหมด 4 เล่ม ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ชุดละ 2-3 แสนบาท
5. วชิรญาณวิเศษ เป็นหนังสือรายสัปดาห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มออก พ.ศ.2429-2437 โดยพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าคคณางค์ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ขณะดำรงตำแหน่งสภานายกหอพระสมุดวชิรญาณ ได้ทรงนำเรื่องราวที่รวบรวมได้จากกรรมการ หรือสมาชิกของหอพระสมุด มาตีพิมพ์ออกเป็นวารสารหรือหนังสือ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เองที่เริ่มมีการแปลวรรณกรรมตะวันตกในรูปของนิทาน เช่น นิทานอีสปปกรณัม เพื่อสอนคติธรรมและให้ความบันเทิงเผยแพร่ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก มีทั้งหมด 9 เล่ม ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ชุดละ 3 แสนบาท
6. สาส์นสมเด็จ มีทั้งหมด 55 ภาค เป็นพระราชหัตเลขาส่วนพระองค์ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงติดต่อกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศนรานุวัตติวงศ์ พิมพ์ครั้งที่หนึ่งเป็นหนังสือชุดที่พิมพ์งานศพ 55 ภาค พิมพ์ครั้งที่ 2 โดยคุรุสภานำมาพิมพ์เป็นเล่มแรก มีทั้งหมด 27 เล่ม
7. หนังสือต้องห้าม
- A Coup for the Rich “รัฐประหารเพื่อคนรวย” เป็นหนังสือภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเมืองช่วง พ.ศ. 2548-2549 begin_of_the_skype_highlighting 2548-2549 end_of_the_skype_highlighting และการรัฐประหาร ที่เขียนโดย รศ. ใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- The King Never Smiles "กษัตริย์ไม่เคยยิ้ม” เป็นหนังสือว่าด้วยพระราชประวัติอย่างไม่เป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและราชวงศ์จักรี เขียนโดย พอล แฮนด์ลีย์ (Paul Handley) นักเขียนชาวอเมริกัน จัดพิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยเยล (Yale University Press) พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2544ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 แต่ไม่ผ่านการตรวจพิจารณาในประเทศไทย
- กงจักรปีศาจ (The Devil's Discus) เป็นหนังสือสืบสวนการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) แห่งสยาม (หรือประเทศไทย) เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ-แอฟริกาใต้ที่ชื่อ เรย์นี ครูเกอร์ (Rayne Kruger) เนื้อหาหนังสือหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พูดถึงความเป็นไปของสยามหรือประเทศไทยสมัยนั้นและพื้นหลังของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
8. สมุดไทย หมายถึง สมุดแบบโบราณของไทย ทำจากใบข่อย ใบลาน หรือปั้บสา นำมาพับขวางทบกลับไปกลับมา ใช้บันทึกข้อมูลและความรู้ต่างๆ ถือเป็นหนังสืออ้างอิงแบบดั้งเดิมของไทยและของวัฒนธรรมอื่นๆ ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เดิมสมุดไทยหรือสมุดข่อย มีไว้สำหรับบันทึกหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา ต่อมาจึงใช้บันทึกข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวิทยาการด้านต่างๆ ด้วย ถือได้ว่าเป็นแหล่งอ้างอิงสรรพวิชาต่างๆ สำหรับอนุชนรุ่นหลัง และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทยได้เป็นอย่างดี
บรรณานุกรม
บุญเตือน ศรีวรพจน์, ประสิทธิ์ แสงทับ. สมุดข่อย. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2542
ปราณี วงศ์จำรัส. (2533). สารสนเทศกับสังคม. เชียงใหม่ สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์ : คณะมนุษยศาสตร์, น.125
รักสยามหนังสือเก่า. (2553). เรื่องน่ารู้......หนังสือหายาก. ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2554, จาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lovesiamoldbook&date=05-06-2010&group=1&gblog=1
สยามบรรณาคม. (2554). สุดยอดหนังสือหายากเมืองสยาม ตอนที่ ๒. ค้นเมื่อ14 กรกฎาคม 2554, จาก www.digitalrarebook.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538789288&Ntype=5
สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (ม.ป.ป.). หนังสือหายากอิเล็กทรอนิกส์. ค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2554, จาก http://library.tu.ac.th/newlib2/newweb/rarebook/rarebook.html
Hot ice. (2553). หนังสือหายากเมืองสยาม. ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2554, จาก http://news.trekaseen.com/?p=7587
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น